มาดูกันว่าตัว B2200 หรือ X-TAL 32.768 Khz ทำงานยังไง
ตัว B2200 หรือ คริสตอล 32.768 Khz หรือ X-tal 32.768 Khz หรือ Crytal Oscillator 32.768 Khz (แล้วแต่จะเรียกนะครับ) แต่ผมเรียก CLK 32.768 Khz
ตัว CLK 32.768 Khz เป็นตัวกำเนิดสัญญาณความถี่ 32.768 khz ตามตัวมันเลย ความถี่ที่ได้จะคงที่แบบ Real Time ตลอดเวลา คือจะออก 32.768 Khz คงที่ไม่เพี้ยนเลย ตัว
CLK 32.768 Khz เองจะต้องทำงานร่วมกับ IC Power เสมอ (เครื่องโนเกีย) เช่นพวก Ccont UEM หรือ RETU แต่ในที่นี้ผมขอกล่าวถึง RETU แล้วกันนะครับ ตัว CLK 32.768 Khz
นั้น เมื่อมันผลิตความถี่ออกมาแล้ว ความถี่ตัวนี้จะถูกส่งกลับเข้าไปที่ RETU แล้วตัว RETU เองก็จะทำการขยายสัญญาณให้ดีขึ้นแต่ค่าเท่าเดิม แล้วจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นสัญญาณนาฬิกา
SleepClk 32.768 Khz ( ตามที่น้อง DA บอก) เท่ากับว่าจะได้สัญญาณตัวใหม่ แต่ความถี่เท่าเดิม หรือเรียกว่า สัญญาณนาฬิกา SleepClk ถ้าเขียนเป็นสูตรจะได้
X-TAL 32.768 Khz + IC Power (RETU) = สัญญาณนาฬิกา SleepClk 32.768 Khz
สัญญาณ นาฬิกา SleepClk นั้นมีหน้าที่อย่างไร สัญญาณนาฬิกา SleepClk มีหน้าที่ประมาณนี้ครับ ทำหน้าที่หน่วงเวลาการเปิดปิดเครื่อง ทำหน้าที่กำหนดเวลาการเปิดปิดของไฟหน้าจอ
หรือไฟคีย์ เสียงเรียกเข้า กำหนดเวลา ปฏิทิน ตั้งปลุก ประมาณนี้ครับ ทำหน้าที่สร้างสัญญาณนาฬิกาให้กับ CPU ในสภาวะ Sleep Mode เพื่อควบคุมการจ่ายไฟของ RETU ให้สอดคล้องกับความ
ต้องการใช้แรงดันไฟใน จังหวะนั้นๆ เช่น ขณะที่เรารอสายอยู่นั้นตัว RETU เองจะไม่ปล่อยไฟเลี้ยงที่เกี่ยวกับพวกภาคส่งออกมา แต่ในส่วนของภาครับนั้นตัว RETU เองจะปล่อยแรงดันไฟออกมา
ตามจังหวะของ สัญญาณนาฬิกา SleepClk เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน โดยจะถูกควบคุมผ่าน CPU อีกทีหนึ่ง แต่ก็ต้องพึ่งสัญญาณนาฬิกาตัวนี้ด้วยเหมือนกัน
ส่วน ที่ถามว่า เวลาตัว C R หายแล้วอยากรู้ว่าขาไหนเป็นขากราว อันนี้ไม่ยากครับ ให้ตั้งมิเตอร์ที่โหมด วัดค่าความต้านทานต่อเนื่องหรือโหมดเสียง แล้วเอาปลาย
สายมิเตอร์ ด้านหนึ่งแตะที่ขากราว อีกด้านหนึ่งแตะที่ขาไหนก็ได้ ถ้ามีเสียงหรือเข็มตีสุด ก็แสดงว่าขานั้นเป็นขากราว (ถ้ามิเตอร์เข็มตั้งค่าที่ x1 แต่ต้องทำการเทียบสอบมิเตอร์
ก่อนทุกครั้ง) ส่วนการวัดนั้น ถ้าวัดที่จุด C2208 หรือ ขาของ B2200 (ตามภาพ) มิเตอร์ไม่สามารถวัดออกครับ ต้องใช้สโคปครับ แต่ไม่ต้องจ่ายไฟเข้าบอร์ดก็ได้นะครับ
สำหรับบอร์ด N70 เดี๋ยววันหลังจะเอาภาพที่เกี่ยวกับจุดวัดของสโคปมาให้ดู พอดีได้สโคปรุ่นใหม่มาเล่น ยังไม่ได้ลงโปรแกรม เลยเอาภาพนี้มาให้ดูก่อน
ภาพจุดวัดที่ตัว X-TAL หรือ C 2208
ภาพจุดวัดสัญญาณนาฬิกา SleepClk 32.768 Khz ที่จุด R7558 หรือ จุด C7617
แล้ว ถ้าเราวัดจุดสัญญาณนาฬิกา SleepClk 32.768 Khz ไม่ออก ให้เราวิเคราะห์แบบนี้ครับ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าจุดสัญญาณนาฬิกา SleepClk นั้นถูกผลิต
ออกมาจาก 2 ตัวคือ ตัว X-TAL และตัว RETU (จริงๆแล้วมีอีกตัว แต่เดี๋ยวค่อยมานำเสนอตอนหน้า ) แต่ถ้าเพื่อนๆ มีมิเตอร์อย่างเดียว ก็จะวิเคราะห์อาการได้ 2 กรณี
คือ ตัว X-TAL เองเสีย หรือตัว RETU เองเสีย ไม่นับลายวงจรขาดนะครับ ก็ให้ลองเปลี่ยนแต่ละตัวดูก่อน แต่ถ้ามีสโคปก็จะสามารถ วัดที่ตัว X-TAL เองได้เลย ถ้าวัด
แล้วมีสัญญาณ 32.768 Khz ออกที่ตัว B2200 หรือ C2208 ก็แสดงว่าตัว X-TAL เองไม่เสีย ก็แสดงว่าเป็นที่ RETU การวิเคราะห์ก็จะแคบลง ครับ
ลองดูเป็นแนวทางครับ เผื่อจะมีประโยชน์ครับ
ตัว B2200 หรือ คริสตอล 32.768 Khz หรือ X-tal 32.768 Khz หรือ Crytal Oscillator 32.768 Khz (แล้วแต่จะเรียกนะครับ) แต่ผมเรียก CLK 32.768 Khz
ตัว CLK 32.768 Khz เป็นตัวกำเนิดสัญญาณความถี่ 32.768 khz ตามตัวมันเลย ความถี่ที่ได้จะคงที่แบบ Real Time ตลอดเวลา คือจะออก 32.768 Khz คงที่ไม่เพี้ยนเลย ตัว
CLK 32.768 Khz เองจะต้องทำงานร่วมกับ IC Power เสมอ (เครื่องโนเกีย) เช่นพวก Ccont UEM หรือ RETU แต่ในที่นี้ผมขอกล่าวถึง RETU แล้วกันนะครับ ตัว CLK 32.768 Khz
นั้น เมื่อมันผลิตความถี่ออกมาแล้ว ความถี่ตัวนี้จะถูกส่งกลับเข้าไปที่ RETU แล้วตัว RETU เองก็จะทำการขยายสัญญาณให้ดีขึ้นแต่ค่าเท่าเดิม แล้วจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นสัญญาณนาฬิกา
SleepClk 32.768 Khz ( ตามที่น้อง DA บอก) เท่ากับว่าจะได้สัญญาณตัวใหม่ แต่ความถี่เท่าเดิม หรือเรียกว่า สัญญาณนาฬิกา SleepClk ถ้าเขียนเป็นสูตรจะได้
X-TAL 32.768 Khz + IC Power (RETU) = สัญญาณนาฬิกา SleepClk 32.768 Khz
สัญญาณ นาฬิกา SleepClk นั้นมีหน้าที่อย่างไร สัญญาณนาฬิกา SleepClk มีหน้าที่ประมาณนี้ครับ ทำหน้าที่หน่วงเวลาการเปิดปิดเครื่อง ทำหน้าที่กำหนดเวลาการเปิดปิดของไฟหน้าจอ
หรือไฟคีย์ เสียงเรียกเข้า กำหนดเวลา ปฏิทิน ตั้งปลุก ประมาณนี้ครับ ทำหน้าที่สร้างสัญญาณนาฬิกาให้กับ CPU ในสภาวะ Sleep Mode เพื่อควบคุมการจ่ายไฟของ RETU ให้สอดคล้องกับความ
ต้องการใช้แรงดันไฟใน จังหวะนั้นๆ เช่น ขณะที่เรารอสายอยู่นั้นตัว RETU เองจะไม่ปล่อยไฟเลี้ยงที่เกี่ยวกับพวกภาคส่งออกมา แต่ในส่วนของภาครับนั้นตัว RETU เองจะปล่อยแรงดันไฟออกมา
ตามจังหวะของ สัญญาณนาฬิกา SleepClk เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน โดยจะถูกควบคุมผ่าน CPU อีกทีหนึ่ง แต่ก็ต้องพึ่งสัญญาณนาฬิกาตัวนี้ด้วยเหมือนกัน
ส่วน ที่ถามว่า เวลาตัว C R หายแล้วอยากรู้ว่าขาไหนเป็นขากราว อันนี้ไม่ยากครับ ให้ตั้งมิเตอร์ที่โหมด วัดค่าความต้านทานต่อเนื่องหรือโหมดเสียง แล้วเอาปลาย
สายมิเตอร์ ด้านหนึ่งแตะที่ขากราว อีกด้านหนึ่งแตะที่ขาไหนก็ได้ ถ้ามีเสียงหรือเข็มตีสุด ก็แสดงว่าขานั้นเป็นขากราว (ถ้ามิเตอร์เข็มตั้งค่าที่ x1 แต่ต้องทำการเทียบสอบมิเตอร์
ก่อนทุกครั้ง) ส่วนการวัดนั้น ถ้าวัดที่จุด C2208 หรือ ขาของ B2200 (ตามภาพ) มิเตอร์ไม่สามารถวัดออกครับ ต้องใช้สโคปครับ แต่ไม่ต้องจ่ายไฟเข้าบอร์ดก็ได้นะครับ
สำหรับบอร์ด N70 เดี๋ยววันหลังจะเอาภาพที่เกี่ยวกับจุดวัดของสโคปมาให้ดู พอดีได้สโคปรุ่นใหม่มาเล่น ยังไม่ได้ลงโปรแกรม เลยเอาภาพนี้มาให้ดูก่อน
ภาพจุดวัดที่ตัว X-TAL หรือ C 2208
ภาพจุดวัดสัญญาณนาฬิกา SleepClk 32.768 Khz ที่จุด R7558 หรือ จุด C7617
แล้ว ถ้าเราวัดจุดสัญญาณนาฬิกา SleepClk 32.768 Khz ไม่ออก ให้เราวิเคราะห์แบบนี้ครับ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าจุดสัญญาณนาฬิกา SleepClk นั้นถูกผลิต
ออกมาจาก 2 ตัวคือ ตัว X-TAL และตัว RETU (จริงๆแล้วมีอีกตัว แต่เดี๋ยวค่อยมานำเสนอตอนหน้า ) แต่ถ้าเพื่อนๆ มีมิเตอร์อย่างเดียว ก็จะวิเคราะห์อาการได้ 2 กรณี
คือ ตัว X-TAL เองเสีย หรือตัว RETU เองเสีย ไม่นับลายวงจรขาดนะครับ ก็ให้ลองเปลี่ยนแต่ละตัวดูก่อน แต่ถ้ามีสโคปก็จะสามารถ วัดที่ตัว X-TAL เองได้เลย ถ้าวัด
แล้วมีสัญญาณ 32.768 Khz ออกที่ตัว B2200 หรือ C2208 ก็แสดงว่าตัว X-TAL เองไม่เสีย ก็แสดงว่าเป็นที่ RETU การวิเคราะห์ก็จะแคบลง ครับ
ลองดูเป็นแนวทางครับ เผื่อจะมีประโยชน์ครับ
2 ความคิดเห็น:
ขอขอบคูณเป็นอย่างมากเลยครับผมได้รับความรู้มากๆเลยถ้ามีความรู้ใหม่ช่วยส่งมาให้ผมด้วยได้ไหมครับผมเปิดร้านแต่ไม่มีเวลาไปเรียนแต่อยากหาความรู้มากๆครับ ที่pim55542@hotmail.com ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง EAKPHONE
ก็เข้ามาติดตามกันต่อได้นะครับ
ผมเองก็จะได้มีกำลังใจรวบรวมมาให้ทุกท่านได้อ่านกันต่อไปอีก
แสดงความคิดเห็น